Articles

วีคัทสแตนเลสคืออะไร? เจาะลึกเทคนิคเซาะร่องให้โค้งสวยแต่ยังแข็งแรง

งานตกแต่งโลหะยุคใหม่ต้องการมุมพับที่เฉียบคมราวกับบานเฟอร์นิเจอร์ไม้ แต่ยังคงคุณสมบัติทนสนิม และรับน้ำหนักได้สูงแบบสแตนเลส เทคนิค “วีคัท” หรือ V-Cut จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเซาะร่องเป็นรูปตัว V บนแผ่นสแตนเลส ความหนาเพียง 1–3 มิลลิเมตร แล้วจึงพับให้มุมแคบดั่งใจโดยไม่เกิดรอยแตก แนวเชื่อมจึงถูกซ่อนอยู่ภายใน ส่งผลให้พื้นผิวภายนอกดูเรียบเนียนระดับงานลักชัวรี ลดขั้นตอนเจียรและขัดแต่งลงอย่างมาก

กลไกการทำงานของ V-Grooving CNC

เครื่อง V-Grooving CNC ใช้ใบมีดคาร์ไบด์หรือ PCD เซาะร่องลึกราว 30–70 เปอร์เซ็นต์ของความหนาแผ่นตามเส้นที่ออกแบบไว้ เมื่อถึงขั้นตอนพับบน Press Brake จะเหลือเนื้อโลหะเพียงบาง ๆ ทำหน้าที่เป็นบานพับตามธรรมชาติ ทำให้ลดรัศมีโค้งลงเหลือไม่กี่ในร้อยมิลลิเมตร เกิดขอบคมกริบและมีค่า Spring Back ต่ำมาก จึงได้มุมตรงตามแบบเกือบสมบูรณ์แบบโดยไม่ต้องแก้ไขซ้ำ

กระบวนการผลิตตั้งแต่ไฟล์ออกแบบถึงชิ้นงานจริง

งาน V-Cut เริ่มต้นจากการสร้างไฟล์ CAD/CAM ที่ระบุแนวพับและองศาเซาะร่องอย่างแม่นยำ ช่างเทคนิคจะตั้งค่าความลึกใบมีดให้พอดี—ลึกเพียงพอให้พับได้ง่ายแต่ยังเหลือ “สันเนื้อ” เพื่อรับแรงดึง จากนั้นจึงเซาะร่องด้วยความเร็วคงที่เพื่อคุมอุณหภูมิไม่ให้ผิวเกิดสีไหม้ หลังเซาะร่องเสร็จ แผ่นสแตนเลสจะถูกย้ายไปพับบน Press Brake ซึ่งตั้งค่าระยะระหว่างแม่พิมพ์ให้สอดคล้องกับมุมพับที่ต้องการ ปิดท้ายด้วยการลบคม ขัดทำความสะอาด และเคลือบผิวหรือ Passivation เพื่อฟื้นฟูชั้นโครเมียมออกไซด์ให้ต้านสนิมได้เช่นเดิม

เหตุผลที่นักออกแบบเลือกใช้ วีคัทสแตนเลส

การเซาะร่องแบบ V-Groove เปิดทางให้สร้างมุมพับแคบกว่า 90 องศาได้อย่างเนียนตา จึงเป็นที่นิยมในงานกรอบบานประตู ผนังลิฟต์ เคาน์เตอร์ครัว และเฟอร์นิเจอร์บิวท์-อินระดับพรีเมียม นอกจากนี้แผ่นที่ผ่านวีคัทสแตนเลส ยังบางและเบากว่าการพับโลหะทั่วไป จึงลดน้ำหนักโครงสร้างได้ 20–30 เปอร์เซ็นต์ ช่วยประหยัดค่าขนส่งและง่ายต่อการติดตั้ง อีกทั้งยังลดจำนวนรอยเชื่อมและการเจียร ทำให้ควบคุมต้นทุนแรงงานและระยะเวลาก่อสร้างได้ดียิ่งขึ้น

เลือกเกรดและความหนาอย่างไรให้ยังแข็งแรง

สำหรับงานครัว ตู้ลิฟต์ หรือชิ้นส่วนทั่วไป เกรด 304 ทนสนิมสูงและไม่เป็นแม่เหล็กจึงตอบโจทย์ หากต้องสัมผัสคลอไรด์หรือบรรยากาศชายทะเลควรขยับไปใช้ 316 ที่เพิ่มโมลิบดีนัมเพื่อยกระดับความทนเคมี ส่วนงานตกแต่งภายในที่ไม่โดนน้ำ เกรด 430 ช่วยประหยัดงบได้ดี แต่ควรเซาะร่องลึกน้อยกว่าเกรด 304 เล็กน้อยเพื่อรักษาความแข็งแรง โดยทั่วไปแผ่นหนา 1.0–1.5 มิลลิเมตรให้สมดุลระหว่างมุมคมและการรับแรง หากชิ้นงานต้องรับน้ำหนักมากควรเหลือสันเนื้ออย่างน้อย 0.3 มิลลิเมตรหรือเสริมโครงภายในเพิ่มเติม

ดูแลความแข็งแรงหลังเซาะร่อง

หลังผ่านกระบวนการ V-Cut แล้วควรวิเคราะห์แรงกดที่ชิ้นงานต้องเผชิญจริง หากเหนือกว่าที่คาดไว้ให้พิจารณาเพิ่มความหนาหรือโครงเสริม ขณะพับต้องควบคุมองศาไม่เกินสเปกเพื่อหลีกเลี่ยงการแตกร้าวของสันเนื้อ ระหว่างการผลิตและขนย้ายควรติดฟิล์ม PVC ป้องกันผิวจากรอยขีดข่วน และหลังงานเสร็จให้ทำ Passivation หรือเคลือบผิวอื่น ๆ เพื่อคืนชั้นโครเมียมออกไซด์ ช่วยยืดอายุการใช้งานในระยะยาว

ตัวอย่างการประยุกต์ V-Cut ในงานจริง

ในครัวโรงแรมระดับห้าดาว มักใช้วีคัทสแตนเลส เพื่อสร้างขอบ 45° ยาวต่อเนื่องตลอดเคาน์เตอร์โดยไม่มีรอยเชื่อม ทำให้ทำความสะอาดง่ายและดูหรูหรา ผนังลิฟต์บางโครงการเลือกเซาะร่องลึกเพียง 0.8 มิลลิเมตรบนแผ่น Mirror Finish เพื่อสร้างลายเรขาคณิตสะท้อนแสงอย่างต่อเนื่อง ส่วนคอนโดระดับลักชัวรีมักใช้สแตนเลสสีทองผิว No.4 ผ่าน V-Cut ก่อนพับเป็นกรอบคม 90 องศา ซ่อนแถบไฟ LED ให้เสมอผิวเฟอร์นิเจอร์อย่างแนบเนียน

บทสรุป

เทคนิค วีคัทสแตนเลสคือคำตอบของงานออกแบบที่ต้องการขอบคมสวยแต่ยังคงโครงสร้างแข็งแรง ด้วยการเซาะร่อง V-Groove ที่ควบคุมความลึกและองศาได้ละเอียดระดับ ±0.1 มิลลิเมตร จึงลดรัศมีโค้ง ประหยัดน้ำหนัก และซ่อนรอยต่อได้แนบเนียน หากเตรียมไฟล์อย่างมืออาชีพและเลือกเกรด–ความหนาเหมาะสม ผลลัพธ์คือชิ้นงาน “สวยจบ-แข็งแรง-คุ้มค่า” ที่ช่วยยกระดับโครงการสถาปัตยกรรมทุกประเภท

ต้องการบริการ V-Cut สแตนเลสครบวงจร ตั้งแต่เลือกเกรดโลหะ เซาะร่อง ไปจนถึงพับและตกแต่งผิว ติดต่อ tcfe โทร. 02-991-5880 หรือเยี่ยมชมหน้า บริการ V-Cut บนเว็บไซต์ tcfe.co.th เพื่อขอคำปรึกษาได้ทันทีครับ